Review : HONDA HR-V Part 2

Review : HONDA HR-V Part 2 ภาคต่อ

อ่ะๆ....แหม นี่ไม่ใช่ Fifty Shade of Gray นะที่จะจบแบบอารมณ์ค้างคา 555+
 
มาต่อกันเลย หลังจาก Part แรกเป็นน้ำจิ้มไปแล้ว กับเรื่องของภายนอกตัวรถ
มาเพิ่มเติมในส่วนของ Feeling ในการขับขี่อีกสักหน่อย โดยจะขอเทียบกับ น้อง Jazz ก็แล้วกัน
ของมันคุ้นมือ คุ้นตีน 555+


อารมณ์ของ น้อง Jazz คือ ขับสนุก ระบบไม่ซับซ้อน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกไม่มาก
เน้นเป็นยานพาหนะในการเดินทางคล่องตัว เล็กกระทัดรัด ในเมืองมุดได้ จอดง่าย ถอยง่าย ปรู๊ดปร๊าด (หรือตูตีนหนักว่ะ)



โดยปกติผมเป็นคนขับรถค่อนข้างไปทางเร็ว แรง นรก แต่ปลอดภัย (ดูขัดๆ กันมั๊ย หุุหุ)
ใช้ความเร็วในการเดินทาง ตจว. อยู่ประมาณ 120+++ ขึ้นเขาลงห้วย เราได้ใช้เกียร์ ใน Mode Manual แบบที่เรียกว่า Paddle shift ในน้อง Jazz (ใครที่มี มิทราบว่าท่านเคยใช้มันกันบ้างหรือเปล่าครับ) ผมใช้ประจำ ส่วนในเมืองก็ รถติดจัง แต่ถ้ามีจังหวะผมก็จะไปของผมจนได้แหละ

พูดแล้วก็ใจหาย แอบคิดถึงเหมือนกัน

กลับมาที่ HR-V กัน แล้วอารมณ์ต่างๆ จะหายไปมั๊ย...!!

การทดสอบแบบเบาๆ จึงเริ่มขึ้น

เส้นทาง กทม. - ทางด่วน - ธรรมศาสตร์รังสิต
และ กทม. - อ่างศิลา

เริ่มที่คันเร่ง
วันแรกๆ ยังไม่ค่อยคุ้นน้ำหนัก คันเร่งเท่าไหร่ กลัวกดแล้วจะพุ่ง...
เริ่มเหยียบแบบถนุถนอม.. (แต่ตอน Test drive พ่อกดซะ 55+)
เออ....กดแล้วมันพุ่งนะเออ ใครเคยขับ Civic อารมณ์ประมาณนั้น แต่คันเร่งจะมีน้ำหนักมากกว่านิด
ที่แน่ๆ การตอบสนองของคันเร่งเป็นรอง BMW 116i แน่นอน

เกียร์ CVT
ใน Spec บอกแค่ว่าเป็น CVT แต่ไม่บอกว่ามีกี่ Speed ...แต่เราได้พิสูจณ์แล้วว่ามันมี 7 Speeds
เหมือนน้อง Jazz ผมเลย เรื่องเกียร์นี่ Smooth as Silk เลยครับ เปลี่ยนซะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์เลย
ถ้าค่อยๆ ไต่ระดับความเร็วไปเรื่อยๆ CVT ทำงานได้อย่างดีเลยครับ...
สำหรับคนที่ไม่เคยขับ CVT อาจจะรู้สึกว่ามันมีเกียร์ ก็ตอนกดคันเร่งเพื่อ Click down
อาจจะใช้เวลาสักประมาณ  0.5-1 วินาทีในการลดเกียร์มาเพื่อให้สัมพันธ์กันการกดคันเร่ง
(แหมครึ่งวินาทีนี่วัดไงว่ะ) คือไม่ได้ฉับพลันซะทีเดียว
แต่ถ้าเทียบกับรถยุโรปแนว Benz E Class ผมว่า HR-V ทำได้ดีเร็วกว่า
(ของใหม่ๆ แม่งก็งี้แหละ ใช้ๆ ไปเดี๋ยวต้องมีบ้างแหละอาการเองแหละ)

การกด Paddle shift นั้นทำได้เลย ในคันเกียร์ที่ตำแหน่ง D และ S
บวกอยู่ด้านขวา ลบอยู่ด้านซ้าย กด Paddle shift แล้วไม่เหยียบไปไหน สักพักมันก็จะกลับมาเป็น Auto เหมือนเดิมให้เอง

มาเรื่องเบรก
พูดแต่เรื่องเร่ง เร็ว แรง เรื่องเบรกนี่ก็ขาดไม่ได้เหมือนกัน ด้วยรถใหญ่กว่า Jazz เลยเป็น Disc เบรก 4 ล้อ
ทั้งหน้าและหลัง + ABS (ขอไม่ทดสอบนะครับว่า ABS ทำงานหรือเปล่า 555+ เอาไว้ได้ใช้จะมาบอก)

ตอนใช้น้อง Jazz ตอนที่เบรก รถจะมีอาการหน้าทิ่ม หรือหน้าจิก...ไม่รู้รถคนอื่นเป็นหรือเปล่า แต่รถผมเป็น 
ส่วนของน้อง 3 แม่งโครต นิ่ม นิ่ง หนึบ...

กลับมา HR-V ด้วยร่างสูงโปร่ง ตอนแรกคิดไว้ว่าแม่งต้องหน้าจิกแน่ๆ แต่ผิดคลาด มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย
เบรกถือว่าเอาอยู่ นุ่ม นิ่ง หนึบ พอๆ กับน้อง 3 แต่เป็นรองอยู่นิดๆ
ในรุ่น EL ได้ Option เมื่อมีการเบรกกระทันหัน ไฟฉุกเฉินจะกระพริบ แจ้งเตือนคันหลังให้อัตโนมัติ

ส่วน Auto Brake Hold อันนี้โคตรชอบ...ลองใช้ติดใจ
ในสภาพรถติด บางคนอาจจะชอบเปลี่ยนมาเกียร์ว่าง (N) หรือบางคนเปลี่ยนเป็น เกียร์ (P) เมื่อรถหยุดนิ่ง
ซึ่งอาจจะเป็นความเข้าใจในการขับรถที่อาจจะไม่ถูกต้อง หรือเป็นโดยธรรมชาติ
แต่การเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ จะทำให้เกียร์ทำงานหนักและสึกหรอสูงกว่าการใส่เกียร์  D ค้างไว้แล้วเหยียบเบรก HR-V จึงทำสิ่งนี้ขึ้นมา เพื่อลดการเปลี่ยนเกียร์ 5555+

คือเมื่อเปิดระบบ แล้วเหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่ง เบรกจะค้างอัตโนมัติ พร้อมไฟ Display และเมื่อเหยียบคันเร่งนิดเดียวระบบจะปลดเบรกให้ แต่ถ้าหยุดนานเกิน 15 นาที ระบบจะปลดเบรกให้เองอัตโนมัติเหมือนกัน (ซวยดิติดนานๆ ห้ามใช้นะ เช่น ติดสี่แยกแครายห้ามใช้ เพราะติดกันจน ขนจมูกยาวเลย)

อีกเบรกคือ เบรกมือไฟฟ้า เป็นแค่ปุ่มเล็กๆ ไม่ต้องใช้แรงดึงเหมือน น้อง Jazz อีกต่อไป อันนี้ สาวๆ คงชอบ ซึ่งต้องใช้ควบคู่กับการการเหยียบ เบรกเท้าด้วย

ช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนชื่ออะไรสักอย่างยาวๆ ช่างมันเถอะไม่ต้องไปจำ เอาเป็นว่ามันดีงามหรือเปล่า

ในความเร็วต่ำๆ ก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน มีเสียงตึงตังกันบ้าง ถ้าลงหลุมขนาดกลางอาจจะออกอาการสะบัดนิดๆ แต่ไม่เหมือนกับรถปิคอัพ ซะทีเดียว ยังพอไหวอยู่
แต่ความเร็วสูงก็รู้สึกนิ่มๆ ย้วยๆ ที่ท้ายได้เหมือนกัน เมื่อนั่ง 4 คนแบบน้ำหนักพอดีๆ จะไม่ค่อยรู้สึกย้วยหรือโยน เอาเป็นว่าตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ของภรรยา คือ "ไม่สะเทือน และ ไม่กระแทกเสียงดัง" เจ็บแต่จบ ที่นี้ถ้าได้ยินเสียงบ่นอีก ก็จะขอเปลี่ยนเป็น BMW 7 Series ซะเลย  (อุ๊ป...แอบนินทา 55+)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภายในตัวรถ

มาตรวจสอบภายในกัน...เอ๊าขึ้นขาหยั่งเลย....จ๊ากคนละเรื่องกัน หุหุ (ตูจะใส่มุขทำมั๊ยว่ะ เล่นเอง ตบเอง)
 


 

เอาอย่างแรก ถ้าเทียบกับน้อง Jazz คือ ที่วางของในรถน้อยกว่าน้อง Jazz มากกกกกก
เพราะ น้อง Jazz ทำที่วางของใต้ Console ทั้งฝั่งคนขับและคนนั่งด้านหน้าไว้ให้ด้วย
เอาล่ะสิทีนี้ของเดิมตูที่เลยวางๆ ไว้เอาไว้ไหนล่ะ...!!!
แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปหมด...ที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือ ที่วางแก้วน้ำ ทั้งรถวางได้ประมาณ 7 แก้ว
คือ ทุกประตูมีที่วางแก้ว ทั้ง 4 บาน แถมให้ตรง console กลางด้านหน้า 2 ด้านหลังอีก 1 รวมแล้วได้ 7 แก้ว....
แล้วให้ตูกินน้ำอย่างเดียวไม่ต้องวางของเลยเหรอ...ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ในการวางของคือ ใต้ Console กลางที่เป็น 2 ชั้น  (เพราะช่องเก็บของฝั่งผู้บัญชาการหมดสิทธิ์ เต็มไปเรียบร้อยแล้ว)

อุต๊ะ....!! มันช่างวางของยากเสียกะไรนี่ ต้องก้มลงไปหยิบ ก้มลงไปวาง ดูลำบากกับชีวิตเหลือเกิน ลองนึกถึงตอนที่ แม่นาคทำมะนาวตกไปใต้ถุนบ้าน แล้วยื่นมือไปหยิบมะนาวดูดิ...
สุดท้ายก็วางมันในที่วางแก้วนี่แหละ...

พวงมาลัย
โดยส่วนตัวชอบการออกแบบพวงมาลัยของ Honda สวยเกือยทุกรุ่น ดู Sport ดี
วัสดุพวงมาลัยเราหุ้มด้วยหนัง..ไม่ได้ดีเด่ อะไรมากมาย พอรับได้ ก้านแอบเล็กไปหน่อย
เมื่อเทียบกับน้อง 3 พวงมาลัยเค้ากระชับมือมากกว่า ถ้าเทียบกับน้อง Jazz ก็แน่นอนต้องดีกว่า
สามารถปรับพวงมาลัย ขึ้น/ลง  และให้เข้า/ออกได้  ปรับได้ 4 ทิศทาง และปุ่มที่ให้มามีครบ ปุ่มเพียบ

 
Zone ซ้ายบน
   เลือกโหมด โทรศัพท์ หรือ ฟังเพลง
  - Mode โทรศัพท์ Memory เบอร์ลงในเครื่อง แล้วเลือกเบอร์โทรออกได้จากปุ่มเลย
  - Mode เพลง เลือก Source ได้ FM / AM / USB x 2 / Bluetooth / Disc /HDMI
    จะฟังเพลงอะไรกันหนักหนาเนี่ย Source เยอะเกิ๊น ปรับเสียง ดัง-เบาได้จากอย่างสบาย


Zone ซ้ายล่าง โทรศัพท์ รับสายวางสาย และ Voice Tag ต่อกับ Siri (แต่ตูใช้ Samsung อ่ะ)
Zone ขวาบน Cruise Control (Lock ความเร็ว)
Zone ขวาล่าง เลือก Mode Display บนหน้าปัดวงขวาสุด และมันยังใช้ Setup ระบบของรถได้อีกด้วย
 - การ Lock ประตู
 - สีหน้าปัด
 - ไฟส่องสว่างในรถ
 - ระบบไฟหน้ารถ
 แต่ต้องจอกใน เกียร์ P นะครับถึงจะ setup ได้
พวงมาลัยปรับสูงต่ำได้...จริงๆ มันก็ปรับกันได้ทุกคันและ (บางคนอาจจะไม่รู้หรือเปล่าว่ารถตัวเองปรับได้)

ด้านหลังพวงมาลัย คือ Paddle shift (ไม่หายนะ)  + อยู่ด้านขวา - อยู่ด้านซ้าย ถ้าใครนิ้วสั้นๆ ก็ยังพอได้นะ ไม่แกะกะ

ก้านระบบไฟ มีไฟหน้า ไฟ Sport light  และ ไฟเลี้ยว เขี่ยขึ้นหรือลงเบาๆ 1 ที ไฟเลี้ยวจะกระพริบ 3 ทีเลย (ยี่ห้ออื่นมันก็มีมานานแล้วนะ)
และก้านระบบปัดน้ำฝน ก็ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่เปิด ปิดอะไรบ้างว่ะ เต็มไปหมด
พอดีคุ้นกับน้อง Jazz เลยจะรู้ว่ามันคล้ายๆ กัน เพราะมันมีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังด้วย

มีที่แตรกันบ้าง...เฮ๊ย เสียงมันผู้ดีอังกฤษมากเลย เสียงเหมือนแนวรถยุโรป อย่าง BMW / BENZ เลยนะเออ

หน้าปัด
 

วงกลม 3 วง ตามสไตล์ Honda
 - วงซ้ายวัดรอบ / บอกตำแหน่งเกียร์
 - วงกลางความเร็ว
 - วงซ้าย Information
แถมด้วยไฟแสดงโหมดต่างๆ อีกเพียบ เช่น Auto braking system, ECON Mode,
เอาจริงๆ เลยนะ...หน้าปัดน้อง 3 สวยกว่า แต่ HR-V จะชนะเลิศ ตรงไป 7 สี มณี 7 แสงนี่แหละ 55+

เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง วงกลม 3 วงจะติดเป็น สีขาว พอกดปุ่ม Start เท่านั้น แม่งอะไรก็ไม่รู้เพียบไปหมด ถ้าเป็นสาวๆ คงนั่งงงสักแป๊บ..

วิทยุพร้อมระบบเสียง
ใครเคยเห็นใน Honda City ตัวใหม่ละก็ มันคือๆ กันเลยแหละ (Copy and Paste มาเลย)
Touch ได้หมด ปรับ Vol. แบบ Slide (Touch บนจอ) เลือก Mode ได้ ตามที่บอกด้านบน
แถมมีช่องใส่ DVD ด้วยวุ๊ย

ระบบเสียง ลำโพง 6 ตัว เสียงแน่น ตึบๆ ใช้ได้ แค่นี้ผมก็สุดๆ แล้ว ผมไม่ค่อยเน้นเรื่องระบบเสียงในรถ
หูผมถึงนะ แต่ไม่ชอบลงทุนกับเรื่องแบบนี้ ใครอยากลองฟังเสียงเรียกได้นะ หุหุ

ระบบปรับอากาศ


แอร์ Digital แบบอัตโนมัติ...แต่ไม่แยกซ้าย ขวา เหมือนตัวเมืองนอกนะ
ทั้งหมดเป็นแบบสัมผัส เหมือนกัน ก็ คือๆ กับ Honda City นั้นแหละ
ส่วนช่องแอร์ ด้านหน้านี่เยอะไปไหน...ตรงฝั่งคนนั่งยาวตลอดแนว แบ่งเป็น 3 ช่อง
ปกติ คุณภรรยาก็เป็นคนขี้หนาวอยู่แล้ว นี่ดันมาทำช่องแอร์เยอะอีก...ปิดอย่างเดียวเลย

แผงควบคุมตรงประตู


สามารถควบคุมการขึ้นลงของกระจกได้ทั้ง 4 บาน 2 บานหน้าเป็นแบบ Auto
- ปุ่ม Lock และ ปลด Lock การกดขึ้นลงทั้ง 4 บานได้
- ปุ่ม Central  Lock
- ปุ่มปรับกระจกมองข้าง
- ปุ่มพับกระจกข้าง

Console และแผงข้าง

Console หน้า ไม่สูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับ รถกระบะ  555+ ใครเคยขับรถปิคอัพจะรู้ได้ว่ามันสูง
console ทำจากวัสดุที่ดูนุ่มๆ นิ่ม ไม่ใช่หนัง มีทำตะเข็บหลอกให้ดูเหมือนว่าเป็นหนังด้วย ..หุหุ หลอกตูไม่ได้หรอก



แผงข้างทั้งหมดเป็นหนังมาจากโรงงาน...ตอนรับรถมากลิ่นไม่ค่อยเหม็นเหมือน Honda City นะ

เบาะ
เบาะทุกที่นั่งเป็นหนังหมด คุณภาพกลางๆ นุ่มตูด ส่วนตอนหลังพับได้ 60/40 เหมือน Jazz แต่ที่แตกต่างคือ ตรงกลางของเบาะหลังดึงมาเป็นที่พักแขนได้ ...มีคนบอกว่าเวลานั่งจะดูเหมือนจมไปในรถ
ได้มาลองพิจารณาดู...เออมันใช่อ่ะ คือเวลาเรานั่ง เหมือนว่าขอบประตูรถมันสูงกว่ารถคันอื่นๆ


Moon roof
ปุ่มเปิด/ปิดหลังคา มันเป็นแบบ One Touch คือ Click เดียวเปิดจนสุดเลย แต่ถ้าจะให้หยุดก็กดอีกที
ขวาเปิดม่าน ซ้ายเปิดกระจกหลังคา (ยังไม่มีรูปหลังคามาลงให้ดูนะ)
 


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสุดท้าย การบริโภค

วิ่งในเมือง ผสมกับนอกเมือง ล่าสุดที่ทำได้คือ 14 km./ลิตร (บนหน้าปัดบอกเท่านี้) คือ วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 120-140 เปิดแอร์ นั่ง 4 คน เติม Gasohol 95 นะเออ ..

ถ้าเทียบกับ Jazz โดยปกติมันก็บริโภคอยู่ประมาณ 15-16 km./ลิตร แต่นั่นมัน เครื่อง 1,500 cc.
ดั้งนั้น HR-V ที่เครื่อง 1,800 cc. ก็ถือได้ว่า ok แหละ

แต่ในเมืองนี่บอกเลยนะตอนนี้ที่วิ่งแบบติดๆ จะได้ประมาณ 10-11  km./ลิตร

เมื่อเราขับถึงความเร็ว 100 km/h. หันมาดูรอบเครื่องยนต์ อยู่ประมาณ 1,600-1,700 รอบ/นาที ถือว่ารอบต่ำมาก นี่แหละน่าจะทำให้ประหยัด เพราะตอนขับน้อง Jazz ถ้า 100 km/h. รอบจะอยู่แถวๆ 2,500 รอบ/นาที

ถือว่าพอใจแหละครับ


สรุป

ใครมีเงินหน่อย แนะนำไป Nissan X-Trail ตัว 2.0 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ไปเลยครับ ใหญ่จริงดีจริง แต่เรื่องศูนย์ไปวัดใจกันเอา

หรือจะไป Subaru XV ก็ดีงาม...ทั้งระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง แต่ซ่อมโหด ศูนย์ก็วัดใจ

ส่วนถ้าใครจะเอาไปเทียบกับ Ford ECO Sport หรือ Nissan Juke ก็แล้วแต่จะชอบเลยครับ
แต่เท่าที่ผมดู review หรือบททดสอบ ได้คิดรวมๆ แล้วผมว่า HR-V ตอบโจทย์ผมหมด

ใครอยากได้ HR-V ตัวกลางนี่ก็ Ok แล้วครับ  Option เท่ากับตัว Top ต่างกันตรง การตกแต่งภายใน ล้อแมกซ์ และหลังคา Moon roof แต่ผมดันทะลึ่งไปตัว Top เองเพราะเห็นว่าราคาต่างกันไม่มาก

อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ซื้อตัว Top คืออุปกรณ์ Safety เลยครับ Air bag พร้อมม่าน 6 จุด ไม่ได้อยากใช้งานนะครับ แค่ซื้อความสบายใจ

(ตอนขับน้อง Jazz ระบบ ABS/EBS/ ABC....XYZ และ Air bag ก็ไม่มี ยังขับได้ทีนี้มากระแดะเนอะ 55+)

สุดท้าย จัดไปตามกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านแหละครับ 
ถ้าไม่ติดว่าต้องแก้ปัญหาเรื่องเสียงในรถที่ว่า "มันสะเทือนจัง" หรือ "เสียงมันดังจัง" ผมไปปิคอัพ 4 ประตู หรือไม่ก็ Honda Click i แล้วครับ....หุหุ

ขอบคุณ มิตรรักแฟนเพจ ที่ตามอ่านนะครัช.....
ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติม ก็มาถามหลังไมค์ได้นะครับ เพราะคิดว่าเขียนแบบ บ้านๆ ลองไปหาที่อื่นอ่านประกอบดูก็ได้นะครับ

Comments

Popular posts from this blog

Maximum request length exceeded

Mini review : SIGMA 85mm. f/1.4 EX DG