Review : HONDA HR-V Part 1

Review : HONDA HR-V Part 1

เอากะเขาสักหน่อย ด้วยเพื่อนมันรบเร้า จะให้ review HONDA HR-V
จะเปลี่ยนพาหนะคู่ใจ มันต้องถูกจริตของเรา ในชีวิตใช้มาตั้งแต่

Honda Civic 3 doors /  Honda Accord ตาเพชร / Honda Jazz GD

แต่โดยจริตเป็นคนชอบรถยนต์แบบเอนกประสงค์ ตั้งแต่แนว Hatch back 5 ประตู ขนของได้เยอะหน่อย ลุยๆได้
ล่าสุดที่ใช้ Honda Jazz นี่อยู่กันมา 9 ปี 11 เดือน 1 วัน ยอมรับขับมันส์ ลุย ขนของได้เยอะจริงๆ
วิ่งกันมา 260,000 โล เห็นจะได้...ไม่ใช้ว่ามันไม่ดี ไม่ใช้ว่ามันเสีย มันไม่เคยงอแง..วิ่ง 130-140 นี่ชิวๆ

แต่ด้วย Honda Jazz หลังๆ นี่เวลาขับนี่จะมีเสียงบ้างอย่างดังมาจากด้านข้างคนขับ อยู่บ่อยๆ
เสียงประมาณว่า "มันสะเทือนจัง" หรือ "เสียงมันดังจัง"  (-__-)"   Oop..!! คงรู้นะว่าเสียงอารายยยย 55+

และแล้วชีวิตเราต้องออกจาก comfort zone ด้วยการเป็นหนี้ก้อนโต!!
เริ่มศึกษา ค้นหารถที่มันถูกจริต ... แรกๆ ก็มองไป Pajero หรือ CR-V

แต่แล้วกระแสมันมาพอดี ขอรอดู Honda HR-V หน่อย ได้รับ Mail จาก Honda เพื่อให้ลงทะเบียนขอชมรถ Honda HR-V
และแล้วเปิดตัววันแรก รีบวิ่งไปดูที่ Show room เลยครับ Honda ดาวคะนอง
ได้ดูรถสมใจ สัมผัสตัวจริงเสียงจริง แทบลงไปดิ้น จะเอา จะเอา...(แต่ตูไปคนเดียว!!!) 
เดินดูรอบรถแล้วมันโดนต่อมจริตมาก ด้วยความสนใจถามน้อง Sale ถึง Promotion โน่นนี่นั่น
แต่เงียบ..!!! เออคือ หน้าตา ท่าทางตูนี่ไม่มีปัญญาซื้อใช่มั๊ย...OK กลับบ้าน

จนกลับมาปรึกษาหารือกับผู้โดยสาร (คุณภรรยา) ว่าเอาไงดี นางบอกว่า ได้ๆ อยากได้รถนิ่มๆ นั่งแล้วไม่กระแทก

Test Drive:
5 เดือนผ่านไป อยากไปลอง Test drive ดูก่อน ค่อยตัดสินใจ...อ้าวแล้วศูนย์ไหนดีว่ะ ที่เก่าไม่เอาแล้ว
14 ก.พ. 2015 ได้ทีขับรถผ่าน Show room เลยขอแวะเข้าไปลอง..เดินเข้าไปบอกขอ Test drive น้อง Sale หยิบกุญแจ
เซ็นต์เอกสาร แล้วออกไปลองเลยยยย....สิ้นสุดการ Test บอกได้ว่าโดน
วันรุ่งขึ้นไปจองเลยครับ...เราตัดสินใจจองก่อน Motor Show เพราะกลัวจะโดนคิวยาาาาาว

แล้วเราก็เข้าสู่ Mode การรอคอย รอรถอยู่ 2 เดือนครึ่ง ...

Review
วันรับรถ 2 พ.ค. 2015 :
รถเรารุ่น EL ตัว Top  เครื่อง 1,800 cc. เกียร์ CVT Spec. มาเต็ม ที่ซื้อตัวนี้เพราะมันต่างจากตัวกลางแค่ 7 หมื่นเลยเอาว่ะยอมเจ็บแต่จบ รายละเอียด Spec. ไปตามดูใน Web ของ Honda กันเองนะครับ

ก่อนรับรถ เรื่องแรกเลยคือ ฟิลม์ติดรถ น้อง Sale แถมให้ Lamina เลยจัด ฟิลม์ปรอท
เพราะกลัวตัวดำ กลัวแดดร้อน..(ปกติขาวผ่องเป็นยองใย เลยกลัวแดด 55+)
ปรอท ทั้งคัน บานหน้า ANL35N (60% ควันบุหรี่ +ปรอท)  และที่เหลือรอบคันเป็น ANL20N (60% ควันบุหรี่ +ปรอท) ครับ

 

ภายนอกรถ (Exterior)
ด้วยเป็นรถที่จัดกลุ่มตัวเองเป็น Crossover SUV หรือ Mini SUV ซึ่งรถจะสูงกว่า Sedan แน่นอน

เทียบกับน้อง 3

ผมขอเทียบ Size กับ น้อง Mazda 3 Hatchback ใหม่นะครับ ของที่บ้านที่น้องภรรยาเพิ่งจัดมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

Style

• น้อง 3 จะมาในมาดวัยรุ่นมี Style เนียบๆ หล่อๆ ดู Social
• ส่วน HR-V ผม ดูเป็นหนุ่มใหญ่หัวใจอยากลุย

วัด Size ดูจากภายนอก

ว่ากันตาม Spec. เลยครับ

1. น้อง 3 จะยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด  4,460 mm.แต่เพราะหน้ายาวกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว ส่วน HR-V ยาว 4,294 mm.
2. ฐานล้อ น้อง 3 ก็ยังยาวกว่าอีก...เออคือ 2,700 mm. ยาวไปไหน ของ HR-V แค่ 2,610 mm.
3. ความกว้าง น้อง 3 ก็ยังจะกว้างกว่าอีก 1,795 mm. ส่วน  HR-V กว้าง 1,772 mm.

คือ HR-V แม่งเล็กกว่า!!! เอาว่ะแต่เรื่องสูง HR-V ตูกินขาด...555+
แต่ลองนึกภาพถ้าเอา HR-V มาโหลด นี่มันแทบจะทรงเดียวกันชัดๆ เลยนี่หว่า

ด้านท้าย
มาดูเรือนร่าง กันต่อ ไฟท้ายเป็น Tube สวย แปลก (มาแนวเดียวกับ BMW 5 Series)
แต่ไฟถอยที่ย้อยลงมาตอนแรกรู้สึกขัดๆ ดูไปดูมาเออ ก็สวยดี
ประตูหลังเปิดได้กว้างและสูง เอาเป็นว่า ส่วนสูง ประมาณ 165 cm. ก็จับถึงพอดี..!!



 

เส้นสายของตัวรถคมชัด ออกแนว Sport ตาม Concept ที่ Honda ว่าไว้

ที่เปิดประตูหลังแอบซ่อนอยู่กับแนวกระจกบานหลัง อาจจะดูเปิดยากสักหน่อยในครั้งแรกๆ เพราะไม่คุ้นเอาซะเลย.. 3

วันผ่านไปก็ชินซะแล้ว

 

 

ด้านหน้า
กระจังหน้า เป็น Piano Black  (เหมือนน้อง 3 อีกแล้ว)  มีไฟ Sport light มาให้ พร้อม Day Time running light และไฟแบบ Projector สว่างโคตรๆ

อีกเรื่องที่อยากจะบอกคือประตูหน้ามันเปิดได้กว้างมากๆ ขึ้น-ลงสะดวก...

แถมท้ายด้วย Moon roof ขับกลางคืนสวยๆ เลยครับพี่น้อง พอเปิดม่านในตอนกลางคืนเท่านั้นแหละ
กลายเป็นหนุ่มหล่อมีเสน่ห์ รักษ์ธรรมชาติ แอบ Play boy นิดๆ ขึ้นมาเลยทีเดียว

เรื่องล้อ
แอบอิจฉา น้อง 3 ที่มาพร้อมวงล้อ 18" รัดด้วยยาง 215/45 R18
ส่วน HR-V มาพร้อมด้วยล้อ 17" รัดด้วยยาง 215/55 R17 ใส่ยางยี่ห้อ DUNLOP ด้วยกันทั้งคู่

ล้อแมกซ์ ดูไกลเป็นดอกไม้เลย

เท่าที่เขียนๆ มารู้สึกได้ว่า น้อง 3 จะดูใหญ่กว่า....อ่ะๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุป
เมื่อได้ลองไปนั่งในรถ ท่านจะรับรู้ได้ทันทีว่า HR-V มีพื้นที่ในรถที่กว้างกว่า สบายกว่า เพราะหลังคาจะสูงโปร่งกว่า และเสา A ไม่ได้ราดเอียงเท่าน้อง 3 ที่ออกไปทาง Sport
เบาะหลัง HR-V นั่งได้สบายกว่าเยอะ พื้นที่เหลือๆ
แล้วยิ่งใครที่บ้าขนของ ผมแนะนำ HR-V เลยครับ พื้นที่เยอะกว่ามาก พอควรเลยครับ
และสุดท้ายเพราะรถสูงกว่า ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่จะมองเห็นได้กว้างกว่า

Feeling ในการขับขี่

• ความคิดแรก HR-V ออกแนวโคลงเคล้งนิดหน่อย แน่เลยเพราะความสูงของนางนี่แหละ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าไม่ได้แสดงอาการหลุดโค้งเท่าหรือโยนอย่างที่คิด...สุดยอด ตอนที่ขับ Jazz แล้วเข้าโค้งยังมีอาการโยนเลยครับ (หรือ Jazzตูไป set ช่วงล่างมาห่วยว่ะ) 
• อัตราเร่งค่อนข้างทำได้ดี ออกตัวไม่ได้อึดอาด กดคันเร่งก็ทำให้หลังติดเบาะได้นะ แถมด้วย Paddle shift อีก สนุกเลยตู
• การเก็บเสียง จากการทดสอบที่ความเร็ว 140 km/hr. รถยังนิ่งๆ คนนั่งยังไม่รู้สึกว่าเร็ว และยังเก็บเสียงได้ดี
• ในความเร็วต่ำๆ เวลาขึ้นลูกกระนาด อาจจะรับแรงสะเทือนถึงพวงมาลัยได้ค่อนข้างชัดเจน น้ำหนักพวงมาลัยก็พอรับได้ไม่หนักไม่เบาไป (แหมแต่ที่สุดยอดของน้ำหนักพวงมาลัยนี่ยกให้ BMW 116i เลยครัชช)
• Cruise control ทำให้ขับทางไกลได้สบายมากๆ อันนี้ชอบ
• Auto Brake Hold อันนี้ขับในเมืองแล้วโครตสบาย แต่ที่กลัวคือ ถ้าไปขับคันอื่นแม่งจะลืมตัวเอา

โดยรวมรู้สึกได้ว่าขับสนุก สบาย ขับทางไกลไม่เหนื่อย ครบเครื่อง

ภายใน

เอาที่พวงมาลัยก่อนเลยครับ...มาครบปุ่มเพียบ
ซ้าย ควบคุมวิทยุ และโทรศัพท์
ขวา Cruise Control และDisplay

 มาตรวัดรืองแสง ตรงกลางเปลี่ยนสีได้ 7 สี

 นี่คือก่อนลงจากรถเวลาดับเครื่อง

เบาะนั่งภายในสำหรับ EL เป็นหนังทั้งหมด ถือว่านุ่มตูดใช้ได้

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
 - Smart entry key less
 - Push button start
 - กล้องมองภาพถอยหลังปรับได้ 3 มุมมอง
 - Air auto แบบ Touch
 - วิทยุ แบบ Touch Screen + 2 USB + 1 HDMI  เล่นเพลงผ่าน Bluetooth จากมือถือได้

และอื่นๆ อีกมากมาย


เอาเท่านี้ก่อน..เดี๋ยวมาต่อ Part 2 ว่าด้วยเรื่อง ภายในและอัตราการบริโภค