Photo for Life
Photo for Life
Seminar & Workshop
วันหนึ่งผมเปิด Facebook ดู Feed จากเพื่อนๆ หรือ Fan page ที่ผมติดตามไปเรื่อยๆ
ผมมาสะดุดอยู่ 1 Post จาก Fan Page : Buddy's Wedding
Page นี้เป็นหนึ่งใน Page ที่ผมติดตามผลงานการถ่ายภาพของคุณ Vin มาสักระยะหนึ่ง
จะว่าเพราะเค้าดังมาจากการถ่ายรูป Wedding และเป็น Organizer งานแต่งงานของดาราหรือคนในแวดวงค่อนข้างมาก ก็ว่าได้
แต่ที่ผมติดตามเพราะผลงานภาพถ่าย ที่ผมรู้สึกว่า "ทุกรูปสวย..."
พอมาเจอ Post : Photo for Life ครั้งที่ 2 เอาแล้ว (ตรูพลาดครั้งแรกไปตอนไหนว่ะ)
แว๊บแรก...ตรูต้องไป ร่วมงานนี้ให้ได้ ...
นี่เลยเป็นครั้งแรกที่จะเสียตังค์ในการเรียนถ่ายรูป นึกในใจ เอาว่ะ "ยอมจ่าย"
ในชีวิตไม่เคยเรียนถ่ายรูป ได้แต่อ่านจากหนังสือ อ่านจาก Web ดูตัวอย่างจากตากล้องคนที่ผมชอบ
พออ่านไป
งานจัด วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014 8.30-17.00 @โรงแรม Hyatt Erawan (แยกราชประสงค์)
** รับจำนวนจำกัด **
อย่างนี้ต้องรีบแล้วตู....แต่ต้องมาหยุดสตั๊น อีกรอบ ตรงประโยคที่ว่า ใครอยากเรียน
"Workshop นี้ ผมไม่ได้เน้น สายอาชีพนะครับ เพราะเอาจริงๆคิดว่าผมไม่ได้เก่งพอที่จะสอนระดับProนะครับ (เห็นหลายๆคนถามมา)
ส่ง Email มาที่ VinPhotoForLife@gmail.com พร้อมระบุ
Subject Photo for Life ครั้งที่สอง
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อายุ อาชีพ อุปกรณ์ที่ใช่ถ่ายรูปเป็นประจำ และเหตุผลที่อยากมาเรียนนะครับ
หลังจากนั้นรอ email Confirm ให้โอนเงินค่าเรียนอีกครั้งก่อนโอนเงินครับผม"
เอาดิ...แม่งมีตังค์อย่างเดียวไม่ได้นะ 55+
เลยตั้งหลักเขียน เหตุของความอยากเรียนไป ดังนี้
ข้อความ ข้างบน มันเป็นเหตุผล บวกกับความในใจของผม...หลักๆ คือผม ตื้อๆ ขาดแรงบันดาลในการถ่ายรูป รู้สึกว่าทุกวันนี้มันทำออกมาย้งไม่ได้ดีเท่าที่ควร
สุดท้ายผมก็ได้ E-Mail confirm ว่าให้โอนเงินได้...อ่ะตรูได้เรียนแล้ว!!
จากนั้นก็เดินไปโอนเงิน...แล้วรอวันงานมาถึง
เรียน - ทำตัวเป็นแก้วเปล่า
สิ่งที่ผมได้มาจากการเรียนมีดังนี้
1. คิดก่อนถ่าย (รูป) ซึ่งต้องสื่ออะไร กับใคร ต้องมี:
2. อย่าไปทำเหมือนคนอื่นๆ...สร้างให้มันแตกต่างสักหน่อย โดยการใส่
ไม่ต้องไปคิดเรื่องกล้องมาก
5. Program / Application ในการแต่งรูป
ผมพยายามถามถึงวิธีการทำงาน และอยากฟังประสบการณ์ของคุณ Vin
เลยถามเยอะหน่อย
ท้ายที่สุดจากการเรียน Course มันก็ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นในการที่จะ กดชัตเตอร์
เพราะการเรียนครั้งนี้่ทำให้ผมรู้สึกและรู้ตัวเองว่า หลายสิ่ง หลายอย่างที่ผมทำกับการถ่ายรูปนั้น
ผมคิดเหมือนเค้าเว๊ย...."เออ...ตรูก็ think like a professional"
แต่ผมยังไม่สามารถทำมันได้ดีเพราะ ละเลย บางอย่าง และไม่ค่อยได้ฝึกฝนนั่นเอง
สุดท้าย มันทำให้คันไม้คันมืออยากถ่ายรูป!
Teerawutp
(TONY)
Seminar & Workshop
วันหนึ่งผมเปิด Facebook ดู Feed จากเพื่อนๆ หรือ Fan page ที่ผมติดตามไปเรื่อยๆ
ผมมาสะดุดอยู่ 1 Post จาก Fan Page : Buddy's Wedding
Page นี้เป็นหนึ่งใน Page ที่ผมติดตามผลงานการถ่ายภาพของคุณ Vin มาสักระยะหนึ่ง
จะว่าเพราะเค้าดังมาจากการถ่ายรูป Wedding และเป็น Organizer งานแต่งงานของดาราหรือคนในแวดวงค่อนข้างมาก ก็ว่าได้
แต่ที่ผมติดตามเพราะผลงานภาพถ่าย ที่ผมรู้สึกว่า "ทุกรูปสวย..."
พอมาเจอ Post : Photo for Life ครั้งที่ 2 เอาแล้ว (ตรูพลาดครั้งแรกไปตอนไหนว่ะ)
แว๊บแรก...ตรูต้องไป ร่วมงานนี้ให้ได้ ...
นี่เลยเป็นครั้งแรกที่จะเสียตังค์ในการเรียนถ่ายรูป นึกในใจ เอาว่ะ "ยอมจ่าย"
ในชีวิตไม่เคยเรียนถ่ายรูป ได้แต่อ่านจากหนังสือ อ่านจาก Web ดูตัวอย่างจากตากล้องคนที่ผมชอบ
พออ่านไป
งานจัด วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014 8.30-17.00 @โรงแรม Hyatt Erawan (แยกราชประสงค์)
** รับจำนวนจำกัด **
อย่างนี้ต้องรีบแล้วตู....แต่ต้องมาหยุดสตั๊น อีกรอบ ตรงประโยคที่ว่า ใครอยากเรียน
"Workshop นี้ ผมไม่ได้เน้น สายอาชีพนะครับ เพราะเอาจริงๆคิดว่าผมไม่ได้เก่งพอที่จะสอนระดับProนะครับ (เห็นหลายๆคนถามมา)
ส่ง Email มาที่ VinPhotoForLife@gmail.com พร้อมระบุ
Subject Photo for Life ครั้งที่สอง
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อายุ อาชีพ อุปกรณ์ที่ใช่ถ่ายรูปเป็นประจำ และเหตุผลที่อยากมาเรียนนะครับ
ข้อมูลพวกนี้จะช่วยให้ผมเตรียมการสอนได้ตรงกับความต้องการของทุกๆคนมากขึ้นนะครับ
ท่านใดไม่มีรายละเอียดพวกนี้มาด้วย ผมขอให้สิทธิ์คนที่ให้ข้อมูลครบก่อนนะครับผม หลังจากนั้นรอ email Confirm ให้โอนเงินค่าเรียนอีกครั้งก่อนโอนเงินครับผม"
เอาดิ...แม่งมีตังค์อย่างเดียวไม่ได้นะ 55+
เลยตั้งหลักเขียน เหตุของความอยากเรียนไป ดังนี้
"อยากได้แนวคิดและแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพ
จากคนตากล้องที่มีประสบการณ์ (มากกว่าความรู้ 555+)
เพื่อให้ "คนถือกล้อง" อย่างผม พอจะเป็น "ตากล้อง" ได้บ้าง
ผมอยากรู้ว่าคุณวิน "จินตนาการ" + "ประมวลความคิด" อย่างไงก่อนกดชัตเตอร์ครับ
ผมเคยคิดจะเลิกถ่ายรูปอยู่หลายครั้ง เพราะรู้สึกไม่มีแรงดันดาลใจ ไม่มีแนวคิด ไม่มีจินตนาการ
ได้แต่ Copy มุมมองของคนอื่น พยายามทำตาม โดยไม่มีแนวทางเป็นของตนเอง
ดูรูปคนอื่นทีถ่ายมาทีไร...ก็รู้สึกแย่ทุกที ทั้งๆ ที่เป็นมุมเดียวกัน
บางครั้งเดินถือกล้องไปก็มีแต่คนบอกว่ากล้องไม่เปลี่ยนกล้องเป็น Full frame อีกเหรอ
ทักซะกล้อง DSLR เป็น กล้อง Compact ไปเลยครับ...
ผมเลยอยากทำให้มันออกมาดีกว่าพวกที่ถือ Full frame (แอบโกรธนิดๆ 55+)
แต่ที่ยังถ่ายรูปอยู่ทุกวันนี้เพราะ คนรอบข้าง และคนที่่รู้จักได้เห็นรูปที่ผมถ่ายแล้วบอกว่าสวย
(เพราะพวกเค้าถ่ายรูปกันไม่เป็น และไม่มีกล้องนอกจากกล้องมือถือครับ 555+)
ผมไม่เคยเรียนถ่ายรูป อ่านหนังสือและทดลองเล่นเอง ไม่มีทฤษฏีในสมอง
ส่วนใหญ่ถ่ายรูปในตอนท่องเที่ยว และจะรับถ่ายรูปให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือญาติๆ
โดยงานจ้างไม่ค่อยมี แต่งานฟรีเยอะครับ 555+
ปล. ไม่รู้ว่าเหตุผลยาวเกินไปหรือเปล่าครับ...ขออภัยด้วยครับ"
ข้อความ ข้างบน มันเป็นเหตุผล บวกกับความในใจของผม...หลักๆ คือผม ตื้อๆ ขาดแรงบันดาลในการถ่ายรูป รู้สึกว่าทุกวันนี้มันทำออกมาย้งไม่ได้ดีเท่าที่ควร
สุดท้ายผมก็ได้ E-Mail confirm ว่าให้โอนเงินได้...อ่ะตรูได้เรียนแล้ว!!
จากนั้นก็เดินไปโอนเงิน...แล้วรอวันงานมาถึง
เรียน - ทำตัวเป็นแก้วเปล่า
สิ่งที่ผมได้มาจากการเรียนมีดังนี้
1. คิดก่อนถ่าย (รูป) ซึ่งต้องสื่ออะไร กับใคร ต้องมี:
- Target - Target ของรูปที่เราจะถ่ายคือใคร และต้องการสื่ออะไร
- Think about what yourself
- Who pay the money (555+ อันนี้แม่งโดน)
- Subject
- Key Message
- Product
- บ่าว-สาว
- หรือมันคือใครในรูป
- Main Idea
- ต้องการขายอะไร
- พยายามทำให้ Main Idea ดูดีที่สุด
- เน้น Simple, Easy, และ Understand ให้มันเข้าใจง่ายๆ
- Sub Idea
- หาอะไรมา Support Main Idea ให้มันดูเด่นขึ้น
- ไม่ว่ามันจะเป็น คน หรือ Location
2. อย่าไปทำเหมือนคนอื่นๆ...สร้างให้มันแตกต่างสักหน่อย โดยการใส่
- Fore ground (พยายามปิดทางออกให้หมด / ไม่มีช่องออกข้าง)
- เน้นแปลกตา
- ระนาบตรง คุณ Vin บอกว่า เค้าโรคจิตเรื่องนี้ (บอกเลยหลังๆ เออ...ตรู ก็เป็นเหมือนกัน)
- หลัง Main Idea ไม่ควรถูกกวน พยายามหาที่ว่างให้ Main Idea
- ถึงลำบากก็ต้องทำ
- ถ่ายให้มัน Under ไว้ก่อนเดี๋ยวมาปรับคืนได้ (มันทำให้ผมนึกถึงบางคนที่มันเคยบอกว่าต้องถ่าย Over ไว้ก่อนแล้วมาปรับ...สลัดมันใช้อะไรคิดว่ะ...ผมว่าต้อง Under ไว้ก่อนตามที่ วิทยากรบอกนะ)
- ถ่ายคนให้ Focus ตา
- ผมถามไปว่ามี สูตรกึ่งสำเร็จรูปมั๊ยในการปรับค่า F
- เรื่องนี้สำหรับผมไม่ยาก..เพราะผมเข้าใจอยู่แล้ว 555+
- Rule of Third - Main Idea ต้องหันหน้าไปทาง Space ที่เหลือ เยอะๆ ไว้ก่อน จะได้ไม่อึดอัด
- Frame - ไม่ต้องมีกรอบรอบด้าน แต่ต้องทำให้ Subject เด่น
- Pattern - อะไรที่มัน ซ้ำๆ สวยๆ
- Leading Line - ควรมี Main Idea อยู่ที่ปลายทาง
- Power/Super Space - โล่งมากๆ Main Idea เล็กและเด่นๆ
ไม่ต้องไปคิดเรื่องกล้องมาก
5. Program / Application ในการแต่งรูป
- Light Room
- SnapSeed - อันนี้โดนใจมากกกกก
- Len Light - แม่งดัน for iOS จบไปกับ Andriod ตรู
ผมพยายามถามถึงวิธีการทำงาน และอยากฟังประสบการณ์ของคุณ Vin
เลยถามเยอะหน่อย
ท้ายที่สุดจากการเรียน Course มันก็ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นในการที่จะ กดชัตเตอร์
เพราะการเรียนครั้งนี้่ทำให้ผมรู้สึกและรู้ตัวเองว่า หลายสิ่ง หลายอย่างที่ผมทำกับการถ่ายรูปนั้น
ผมคิดเหมือนเค้าเว๊ย...."เออ...ตรูก็ think like a professional"
แต่ผมยังไม่สามารถทำมันได้ดีเพราะ ละเลย บางอย่าง และไม่ค่อยได้ฝึกฝนนั่นเอง
สุดท้าย มันทำให้คันไม้คันมืออยากถ่ายรูป!
Teerawutp
(TONY)
Comments
Post a Comment